Build your wardrobe #2 Find your style : สไตล์ที่ใช่ หายังไงให้เจอ?

สไตล์ที่ใช่ หายังไงให้เจอ? 

ฮาโหลจ้า สาวๆ กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความเกี่ยวกับการแต่งตัวดีๆ ที่มีสไตล์ลิสต์มาให้คำแนะนำถึงที่

สไตล์ในการแต่งตัวที่เข้ากับตัวเองของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป เพราะแบบนี้เราจึงต้องหาสไตล์ที่ใช่ให้กับตัวเรานั้นเอง

ในบทความนี้ เราหาจะพาสาวๆ ทุกๆคน มาตามหาสไตล์ที่ใช่ ของตัวเองกัน แต่ก่อนที่จะเริ่ม สาวๆ  รู้หรือป่าวว่าสไตล์นั้นสำคัญยังไง

บอกได้เลยว่าสำคัญมากๆ เพราะสไตล์เป็นความประทับใจแรกของผู้ที่ได้มาพบเจอกับเรา ฉะนั้นสไตล์ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเราได้อย่างชัดเจน

จะส่งผลให้คนรอบข้างเข้าใจความเป็นตัวตนของเราได้ง่ายขึ้น และยังทำให้เรามีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่จดจำได้ง่าย

ดังนั้นเรามาหาวิธีสร้างสไตล์ส่วนตัวของเรา และมารู้จักสไตล์ต่างๆกันเถอะค่ะ

cheerful-model-sitting-floor-
 

 หาสไตล์ส่วนตัวยังไงให้เจอ

การหาสไตล์ส่วนตัวต้องผ่านการลองผิดลองถูก บางครั้งอาจใช้เวลานานเป็นปีๆกว่าจะเจอสไตล์ที่ถูกใจจริงๆ นอกจากนั้นสไตล์ส่วนตัวยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา บางครั้งอาจใช้เวลาเปลี่ยนทีละนิด บางครั้งก็อาจเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลยในทันที โดยคนส่วนมากอาจยังไม่เคยรู้จักสไตล์ของตัวเองเลย หรือบางครั้งอาจไม่มีสไตล์ส่วนตัวเลยก็เป็นได้

บางครั้งคนเราอาจมีความชอบหลากหลายสไตล์ แต่ถ้าเราไม่รู้จักสไตล์ที่เราชอบจริงๆ ก็จะเป็นการยากในการนำเสื้อผ้าที่มีสไตล์แตกต่างกัน มาผสมผสานรวมกันให้เป็นสไตล์ที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของเราได้อย่างชัดเจน

การมีความชอบหลากหลายสไตล์ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะนำสไตล์เหล่านั้นมาผสมผสานให้เป็นตัวเราได้อย่างลงตัว ดังนั้นเรามาหาวิธีการหาสไตล์ที่ใช่กันเถอะค่ะ


medium-shot-woman-looking-sty

 

เริ่มจากหาแรงบันดาลใจ

การจะหาสไตล์ที่ใช่ให้เจอนั้น เราต้องเริ่มจากการหาแรงบันดาลใจในการแต่งตัวของเรา ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ:

  1. 20905..

1. การทำสไตล์บอร์ด

การทำสไตล์บอร์ดสามารถเริ่มได้ง่ายๆ จากการค้นหาสไตล์การแต่งตัว หรือเสื้อผ้าชิ้นที่คุณชอบจากช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากหน้านิตยสาร จากดารา,บล็อกเกอร์ หรือแม้แต่เพื่อนที่คุณชื่นชอบในการแต่งตัว หรือจากช่องทางโซเชี่ยลมีเดียร์ต่างๆ เช่น Instagram หรือ Pinterest 

โดยเริ่มจากหารูปภาพที่คุณชื่อชอบสไตล์มาให้ได้มากที่สุด จากนั้นเมื่อคุณเริ่มนำรูปภาพต่างๆมาวางรวมกันเป็นสไตล์บอร์ด คุณจะเห็นได้ถึงความเกี่ยวเนื่องกันของสไตล์ต่างๆ และปัจจัยที่คล้ายกันที่ทำให้คุณชอบสไตล์นั้นๆ นี่คือการเริ่มต้นในการเข้าใจถึงสไตล์ของตัวคุณเอง

19198729

2.   คนดังที่เป็นแรงบันดาลใจ

ถ้าคุณมีคนดังที่เป็นไอดอลหรือแรงบันดาลในการแต่งตัว เราขอแนะนำให้คุณเลือกคนดังที่อยู่ในยุคที่ค่อนข้างเป็นปัจจุบัน เนื่องจากถ้าคุณแต่งตัวตามคนดังในอดีตแบบชนิดที่เรียกได้ว่าชิ้นต่อชิ้น การทำแบบนั้นอาจทำให้คุณดูล้าสมัยไปได้ ดังนั้นถ้าคุณชอบการแต่งตัวของคนดังในอดีตมาก เราแนะนำให้คุณเลือกดูปัจจัยที่คุณชอบในการแต่งตัวของชุดนั้นๆออกมาเป็นอย่างๆ หรืออาจไปตามดูบล็อกเกอร์หรือผู้มีอิทธิพลทางด้านแฟชั่นที่ชอบแต่งตัวตามยุคสมัยนั้นๆ เนื่องจากสไตล์ของพวกเขาจะมีความทันสมัยแม้ว่าจะมีกลิ่นอายจากยุคนั้นๆผสมรวมอยู่ด้วยก็ตาม

young-brunette-woman-sitting-

3.   จะตู้เสื้อผ้าใครหล่ะ ถ้าไม่ใช่ตู้คุณ

ขั้นตอนสุดท้ายคือการตรวจค้นดูตู้เสื้อผ้าของคุณเอง ว่าชิ้นไหนคือเสื้อผ้าที่คุณชอบที่สุด ชิ้นไหนคือชิ้นที่คุณใส่บ่อยๆเป็นประจำ แล้วลองดูว่าคุณชอบเสื้อผ้าชิ้นนั้นๆตรงส่วนไหน ถ่ายรูปปัจจัยที่คุณชอบจากเสื้อผ้าชิ้นต่างๆ แล้วรวบรวมไว้ในสไตล์บอร์ดของคุณ

portrait-three-young-beautifu
 

 

สไตล์มีกี่แบบ แบบไหนบ้าง แตกต่างกันอย่างไร?

หลังจากที่เราพอรู้สไตล์ที่เราชื่นชอบแล้ว ก็ถึงเวลามาทำความรู้จักสไตล์ต่างๆที่เป็นสากลกันเถอะค่ะ เราจะได้พอเห็นภาพว่าสไตล์ที่เราชื่นชอบเป็นประมาณไหน แล้วเค้าแต่งตัวกันอย่างไร

1

s1

 

1.สไตล์คลาสสิก อนุรักษ์นิยม (Classic/Traditional)

สไตล์นี้เป็นสไตล์ที่ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ น่าเชื่อถือ เป็นไปตามระเบียบแบบแผน เป็นสไตล์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามเวลาหรือกระแสแฟชั่น เสื้อผ้าของสไตล์นี้จะเป็นเสื้อผ้าที่ดูเรียบๆ เป็นทางการตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นทั้งส่วนของรูปทรงหรือการตัดเย็บก็ตาม สไตล์นี้เสื้อผ้าจะออกโทนสีกลางๆหรือเข้ม ไม่มีสี ลวดลาย หรือลูกเล่นที่โดดเด่นออกมาเป็นพิเศษ

2

s2

 

2.สไตล์หรูหรา สง่างาม (Elegant)

สไตล์นี้เป็นสไตล์ที่เน้นความเรียบหรู สง่างาม สมบูรณ์แบบ ถึงแม้จะเป็นเสื้อผ้าที่มีความเป็นทางการก็จะดูเนี๊ยบและหรูหรา ทั้งคุณภาพ การตัดเย็บ และรูปทรง สไตล์นี้จะใส่สูทเป็นเสื้อผ้าชิ้นหลัก เสื้อผ้าชิ้นอื่นจะออกแนวเรียบง่าย แต่เน้นการตัดเย็บอย่างดี เสื้อผ้าที่ใส่จะพอดีกับรูปร่างเหมือนสั่งตัดมา ทำให้เห็นรูปร่างได้อย่างชัดเจน สีของเสื้อผ้าสไตล์นี้จะเน้นโทนสีขาว ดำ เทา หรือถ้ามีสีสัน ก็จะเป็นสีเดียวเท่านั้น เนื้อผ้าส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักเบาและราคาสูง

 

3

s3

 

3.สไตล์โรแมนติก หวานๆ (Romantic)

สไตล์นี้เป็นสไตล์ที่เน้นความเป็นผู้หญิงมากๆ มีความอ่อนหวาน อ่อนโยน ละเอียดอ่อน นุ่มนวล และอบอุ่น เสื้อและชุดของสไตล์นี้จะเน้นการเข้าเอวเพื่อเน้นรูปร่างความเป็นผู้หญิง ให้หุ่นดูเป็นทรงนาฬิกาทราย ลูกเล่นของเสื้อผ้าจะเน้นที่สื่อถึงความอ่อนหวาน เช่น โบว์ ลูกไม้ ระบาย ความยาวของชุดจะค่อนข้างยาวทำให้ดูเรียบร้อย อ่อนหวาน เสื้อผ้าสไตล์นี้ส่วนใหญ่จะเน้นเสื้อผ้าสีอ่อนหรือสีพาสเทล ผ้าจะมีความนิ่ม เนื้อเบา และใส่สบาย ลวดลายของสไตล์นี้ส่วนมากจะเป็นลายดอกไม้ ลายกราฟฟิคหวานๆ ลายเล็กๆ หรือลายจุดเป็นต้น

4

s4

 

4.สไตล์เซ็กซี่ มีเสน่ห์ (Alluring)

สไตล์นี้เป็นสไตล์สำหรับสาวที่มั่นใจในรูปร่างและชอบบริหารเสน่ห์ สะกดสายตา ยั่วยวน ขี้เล่น และชอบเข้าสังคม เสื้อผ้าของสไตล์นี้ส่วนใหญ่จะพอดีกับรูปร่างมากๆหรือรัดรูปเพื่อเน้นให้เห็นทรวดทรงได้อย่างชัดเจน เน้นการเข้าเอวแน่นๆเพื่อให้หุ่นดูเป็นทรงนาฬิกาทราย สไตล์นี้จะไม่ชอบชุดที่มีลูกเล่นเยอะๆ แต่จะเน้นเป็นการเปิดเผยให้เห็นสัดส่วนรูปร่างอย่างชัดเจนแทน สไตล์นี้ส่วนใหญ่จะชอบเสื้อผ้าที่มีสีสดหรือสีเข้ม ผ้าที่ชอบเป็นผ้าที่มีความยืดหยุ่นแนบไปกับผิว

5

s5

 

5.สไตล์สปอร์ต สายลุย (Sporty)

สไตล์นี้จะเน้นความใส่สบาย คล่องตัว เป็นลุคแบบอเมริกัน สไตล์นี้จะดูเป็นมิตร เป็นธรรมชาติ ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อนจนเกินไป แต่จะดูกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า สดใส สีของเสื้อผ้าส่วนใหญ่จะเป็นแนว  เอิร์ธโทน ส่วนเนื้อผ้าจะเน้นความเป็นธรรมชาติหรือใส่สบาย รองเท้าก็เช่นกัน จะเน้นความใส่สบายและเรียบง่าย เช่น รองเท้าผ้าใบ รองเท้าหุ้มส้นเรียบๆ เป็นต้น

6

s6

 

6.สไตล์ครีเอทีฟ สร้างสรรค์ (Creative)

สไตล์นี้เป็นสไตล์ที่เปรียบได้กับงานศิลปะ เป็นสไตล์ที่เปิดกว้างเรื่องการแต่งตัวอย่างมีอิสสระ เน้นการมีจินตนาการกว้างไกล ความคิดสร้างสรรค์ ความสนุกสนาน ความมีเอกลักษณ์ แปลกใหม่ ความน่าสนใจ และการแต่งตัวที่คิดนอกกรอบปฏิบัติของสังคมทั่วไป สไตล์นี้จะสามารถจับคู่เสื้อผ้าได้หลากหลายรูปแบบตามที่ใจปรารถนา คนในสไตล์อื่นๆ อาจไม่เข้าใจการแต่งตัวของคนสไตล์นี้ และมองว่าเสื้อผ้าของพวกเขาไม่เข้ากัน คนสไตล์นี้จะเลือกเนื้อผ้าและทรงของเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์แบบที่คนอื่นไม่สามารถคาดเดาได้ เสื้อผ้าอาจมีหลายชิ้น หลายรูปแบบ ต่างสีสันมาผสมกันเป็นชุดๆเดียวก็ได้

7

s7

 

7.สไตล์ดราม่า โดดเด่น (Dramatic)

สไตล์นี้เป็นสไตล์ที่ดูโดดเด่น เก๋ไก๋ มั่นใจ สะกดสายตา และน่าเกรงขาม สไตล์นี้จะแตกต่างจากสไตล์ครีเอทีฟตรงที่ถึงแม้จะเลือกใส่เสื้อผ้าที่ดูไม่ธรรมดา แปลกใหม่เหมือนกัน แต่สไตล์ดราม่าจะเลือกเสื้อผ้าชิ้นที่โดดเด่นเพียงชิ้นเดียว มาผสมกับเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆที่ดูเรียบง่าย แต่มีสไตล์ สไตล์นี้จะชอบชุดที่มีโครงสร้าง มีความโดดเด่นในส่วนของทรงและลูกเล่น ถ้าเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีสีเข้มจะเข้มแบบสุดๆ ถ้าเลือกสีอ่อนก็จะอ่อนแบบสุดๆ หรือเลือกสีที่มีความตัดกันอย่างชัดเจน เช่น ใส่สีขาวคู่กับสีดำ เป็นต้น ส่วนลายผ้าจะเลือกที่มีขนาดใหญ่และโดดเด่นเช่นกัน


ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อยากให้ลองหาสไตล์ที่ใช่ของตัวเองจริงๆค่า เพื่อเราจะได้แต่งตัวอย่างมีความสุขที่สุด ในครั้งต่อๆจะเป็นบทความแบบไหน ฝากติดตามกันด้วยน้าา

และถ้าใครมีคำถาม ข้อสงสัย ในการแต่งตัว ทักเข้ามาหาเราได้เลยน้า เราพร้อมตอบมากๆค่า จุ้บๆ